การตรวจวัดแสง

การตรวจวัดแสง เป็นกระบวนการประเมินความเข้มของแสงที่ส่องสว่างในพื้นที่หนึ่งๆ มีความสำคัญในการรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของคนทำงาน. ซี่งมีรายละเอียดังนี้

1. คุณสมบัติของแสง

แสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้:

  • ความยาวคลื่น (Wavelength): เป็นระยะทางระหว่างยอดคลื่นหนึ่งไปยังอีกยอดคลื่นหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวกำหนดสีของแสง โดยแสงสีม่วงมีความยาวคลื่นสั้นที่สุดและแสงสีแดงมีความยาวคลื่นยาวที่สุด
  • ความเข้มแสง (Luminance): เป็นความสว่างที่ตกกระทบต่อวัตถุหรือพื้นผิวใดๆ และสะท้อนเข้าสู่สายตา
  • ฟลักซ์ส่องสว่าง (Luminous Flux): เป็นปริมาณของแสงที่ออกมาจากแหล่งกำเนิดแสงในทุกทิศทาง โดยมีหน่วยเป็นลูเมน (Lumen, lm)
  • ความสว่าง (Illuminance): เป็นปริมาณของฟลักซ์ส่องสว่างที่ตกกระทบลงบนพื้นที่ผิวใดๆ โดยมีหน่วยเป็นลักซ์ (Lux, lx)

ได้รับอนุญาตจาก Google

2. วัตถุประสงค์ของการตรวจวัดแสง

การตรวจวัดแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญเพื่อ:

  • ประเมินสภาพแวดล้อม: ช่วยในการประเมินและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานหรือที่พักอาศัยให้เหมาะสมและปลอดภัย
  • ลดอันตราย: ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากแสงจ้าหรือแสงสว่างไม่เพียงพอซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการมองเห็นได้
  • ปฏิบัติตามมาตรฐาน: เพื่อให้แน่ใจว่าสถานที่ทำงานมีการจัดแสงตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนด
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: การจัดแสงสว่างที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความเมื่อยล้าของสายตา

3. มาตรฐานการตรวจวัดแสง

มาตรฐานการตรวจวัดแสงสว่างในประเทศไทยอ้างอิงจาก ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง โดยมีการกำหนดค่าความสว่างขั้นต่ำสำหรับพื้นที่ทำงานประเภทต่างๆ เช่น:

  • งานละเอียดมาก: เช่น งานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ควรมีค่าความสว่างมากกว่า 1,000 ลักซ์
  • งานละเอียด: เช่น งานเขียนแบบ ควรมีค่าความสว่างระหว่าง 500-1,000 ลักซ์
  • งานทั่วไป: เช่น งานสำนักงาน ควรมีค่าความสว่างระหว่าง 200-500 ลักซ์
  • งานหยาบ: เช่น งานคลังสินค้า ควรมีค่าความสว่างระหว่าง 100-200 ลักซ์

4. เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวัดแสง

เครื่องมือหลักที่ใช้ในการตรวจวัดแสงสว่างเรียกว่า เครื่องวัดแสง (Lux Meter) หรือ Lux Light Meter ซึ่งมีหลักการทำงานโดยการใช้เซลล์รับแสง (Photocell) ในการแปลงค่าความเข้มแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้าแล้วแสดงผลเป็นค่าลักซ์ (Lux) บนหน้าจอ

5. การป้องกันอันตรายจากแสง

การป้องกันอันตรายจากแสงสว่างทำได้หลายวิธี ได้แก่:

  • ควบคุมแหล่งกำเนิดแสง: ใช้หลอดไฟที่มีความสว่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงแสงสะท้อนที่เข้าตาโดยตรง
  • จัดตำแหน่ง: จัดตำแหน่งโต๊ะทำงานหรือเครื่องจักรไม่ให้หันหน้าเข้าหาแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง
  • ใช้เครื่องป้องกัน: สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา เช่น แว่นตานิรภัย, แผ่นกรองแสง หรือหมวกที่มีปีกบังแสง ในบริเวณที่มีแสงจ้ามาก
  • พักสายตา: พักสายตาเป็นระยะๆ เมื่อต้องทำงานกับแสงจ้าหรือทำงานที่ต้องใช้สายตามากๆ เพื่อลดความเมื่อยล้า