การตรวจวัดทางด้านการยศาสตร์

การตรวจวัดทางการยศาสตร์ (Ergonomics) คือการประเมินความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมการทำงานกับสรีระของมนุษย์ เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน. ซี่งมีรายละเอียดดังนี้

1. ความสำคัญของการตรวจวัดทางการยศาสตร์

การตรวจวัดทางการยศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการบาดเจ็บจากการทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal Disorders, MSDs) เช่น อาการปวดหลัง, อาการชาที่ข้อมือ หรืออาการปวดคอ. การตรวจวัดนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความเมื่อยล้าของผู้ปฏิบัติงานอีกด้วย.

ได้รับอนุญาตจาก Google

2. วัตถุประสงค์ของการตรวจวัดทางการยศาสตร์

วัตถุประสงค์หลักของการตรวจวัดทางการยศาสตร์คือ:

  • ประเมินความเสี่ยง: เพื่อระบุว่างานหรือสภาพแวดล้อมการทำงานใดที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการทำงาน
  • ออกแบบและปรับปรุง: เพื่อใช้ข้อมูลที่ได้ในการออกแบบหรือปรับปรุงอุปกรณ์, เครื่องมือ, สถานีงาน และกระบวนการทำงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงาน
  • ลดการบาดเจ็บ: เพื่อลดการบาดเจ็บและอาการปวดที่เกิดจากการทำงานซ้ำๆ หรือการอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. มาตรฐานการตรวจวัดทางการยศาสตร์

มาตรฐานทางการยศาสตร์มีหลายฉบับที่ใช้กันทั่วโลกเพื่อเป็นแนวทางในการประเมินและออกแบบงานให้ปลอดภัย. ตัวอย่างเช่น:

  • มาตรฐาน ISO 11228: กำหนดแนวทางในการจัดการงานที่ต้องมีการยก, ผลัก, หรือดึงน้ำหนัก
  • มาตรฐาน ISO 9241: ครอบคลุมการออกแบบงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แสดงผล (Visual Display Units, VDU)
    นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือประเมินเชิงปริมาณที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น แบบประเมิน REBA (Rapid Entire Body Assessment) หรือ RULA (Rapid Upper Limb Assessment) ซึ่งใช้ประเมินความเสี่ยงจากการทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม.

4. เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวัดทางการยศาสตร์

เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวัดทางการยศาสตร์มีทั้งแบบง่ายและแบบซับซ้อน:

  • กล้องวิดีโอและโปรแกรมวิเคราะห์ท่าทาง: ใช้บันทึกและวิเคราะห์ท่าทางการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน
  • เครื่องมือวัดแรง (Force Gauge): ใช้วัดแรงที่ใช้ในการยก, ผลัก หรือดึง
  • เครื่องวัดมุมของข้อต่อ (Goniometer): ใช้วัดมุมของข้อต่อต่างๆ เพื่อประเมินท่าทาง
  • แบบประเมินและเช็คลิสต์: เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นในสถานีงานต่างๆ เช่น RULA หรือ REBA ซึ่งใช้ตรวจสอบท่าทางของร่างกาย, การใช้แรง และความถี่ในการทำงาน

5. คำแนะนำในการดูแลสุขภาพทางการยศาสตร์

เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการทำงานและดูแลสุขภาพทางด้านการยศาสตร์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

  • ปรับเปลี่ยนท่าทาง: เปลี่ยนท่าทางหรือพักยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นระยะๆ เพื่อลดความเมื่อยล้าจากการนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน
  • จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม: จัดโต๊ะทำงาน, เก้าอี้ และคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสรีระ
  • ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม: เลือกใช้เครื่องมือที่มีการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ เพื่อลดการใช้แรงและลดแรงกระแทก
  • ออกกำลังกายและสร้างความแข็งแรง: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีอาการปวดหรือเจ็บปวดจากการทำงาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการยศาสตร์หรือแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขที่ถูกต้อง.